วันอาทิตย์ที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2559

วันสุนทรภู่


26 มิถุนายน วันสุนทรภู่

หากจะพูดถึงเรื่องนักกวีเอกที่มีชื่อเสียง มั่นใจได้เลยว่าเราในฐานะคนไทย จะต้องนึกถึง “สุนทรภู่” ผู้ซึ่งเป็นนักกวีเอกชาวไทย ที่เป็นผู้สร้างสรรคบทความ วรรณกรรม กลอนต่างๆ ที่มีความไพเราะ ยกตัวอย่างเช่น “พระอภัยมณี” ที่ได้รับยกย่องจากองค์การยูเนสโก ว่าให้เป็นบุคคลสำคัญของโลก ด้านงานวรรณกรรม โดยยกย่องคำว่า “มหากวีแห่งรัตนโกสินทร์ หรือ เชกสเปียร์แห่งประเทศไทย” เลยทีเดียว ซึ่งวันที่ 26 มิถุนายน ของทุกปี จะเป็นวันสุนทรภู่ ทางสกู๊ปเอ็มไทย จึงไม่พลาดที่จะนำข้อมูลดีๆ มาให้ความรู้อย่างแน่นอน
วันสุนทรภู่
พระสุนทรโวหาร
 พระสุนทรโวหาร นามเดิม ภู่ หรือที่เรียกกันทั่วไปว่า สุนทรภู่ เป็นกวีชาวไทยที่มีชื่อเสียงได้รับยกย่องเป็น เชกสเปียร์แห่งประเทศไทย เกิดหลังจากตั้งกรุงรัตนโกสินทร์ได้ 4 ปี และได้เข้ารับราชการเป็นกวีราชสำนักในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย เมื่อสิ้นรัชกาลได้ออกบวชเป็นเวลาร่วม 20 ปี ก่อนจะกลับเข้ารับราชการอีกครั้งในปลายรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว โดยเป็นอาลักษณ์ในสมเด็จเจ้าฟ้าจุฑามณี กรมขุนอิศเรศรังสรรค์ ในสมัยรัชกาลที่ 4 ได้เลื่อนตำแหน่งเป็น พระสุนทรโวหาร เจ้ากรมอาลักษณ์ฝ่ายพระราชวังบวร ซึ่งเป็นตำแหน่งราชการสุดท้ายก่อนสิ้นชีวิต
สุนทรภู่เป็นกวีที่มีความชำนาญทางด้านกลอน ได้สร้างขนบการประพันธ์กลอนนิทานและกลอนนิราศขึ้นใหม่จนกลายเป็นที่นิยมอย่างกว้างขวางสืบเนื่องมาจนกระทั่งถึงปัจจุบัน ผลงานที่มีชื่อเสียงของสุนทรภู่มีมากมายหลายเรื่อง เช่น นิราศภูเขาทอง นิราศสุพรรณ เพลงยาวถวายโอวาท กาพย์พระไชยสุริยา และ พระอภัยมณี เป็นต้น






ประวัติสุนทรภู่

สุนทรภู่ มีชื่อเดิมว่า ภู่ เกิดในสมัยรัชกาลที่ 1 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ เมื่อวันจันทร์ เดือน 8 ขึ้น 1 ค่ำ ปีมะเมีย จุลศักราช 1148 เวลาเช้า 2 โมง เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2329 เขตพระราชวังหลัง กรุงรัตนโกสินทร์ ณ บริเวณด้านเหนือของพระราชวังหลัง ซึ่งเป็นบริเวณสถานีรถไฟบางกอกน้อยปัจจุบันนี้ บิดาเป็นชาวบ้านกร่ำ อำเภอแกลง จังหวัดระยอง มารดาเป็นชาวเมืองอื่น เชื่อว่าหลังจากสุนทรภู่เกิดได้ไม่นาน บิดามารดาก็หย่าร้างกัน บิดาออกไปบวชอยู่ที่วัดป่ากร่ำอันเป็นภูมิลำเนาเดิม ส่วนมารดาได้เข้าไปอยู่ในพระราชวังหลัง ถวายตัวเป็นนางนมของพระองค์เจ้าหญิงจงกล พระธิดาในเจ้าฟ้ากรมหลวงอนุรักษ์เทเวศร์ ดังนั้น สุนทรภู่จึงได้อยู่ในพระราชวังหลังกับมารดา และได้ถวายตัวเป็นข้าในกรมพระราชวังหลัง สุนทรภู่ยังมีน้องสาวต่างบิดาอีกสองคน ชื่อฉิมและนิ่ม

ด้านการศึกษาสุนทรภู่
วัยเด็กสุนทรภู่ได้ร่ำเรียนหนังสือกับพระในสำนักวัดชีปะขาว ซึ่งต่อมาได้รับพระราชทานนามในรัชกาลที่ 4 ว่า วัดศรีสุดาราม อยู่ริมคลองบางกอกน้อย ต่อมาได้เข้ารับราชการเป็นเสมียนนายระวางกรมพระคลังสวน ในกรมพระคลังสวน แต่ไม่ชอบทำงานอื่น นอกจากแต่งบทกลอน ซึ่งสามารถแต่งได้ดีตั้งแต่ยังรุ่นหนุ่ม

ด้านครอบครัวสุนทรภู่
สุนทรภู่ได้ลอบรักกับนางข้าหลวงในวังหลังคนหนึ่ง ชื่อแม่จัน ชะรอยว่าหล่อนจะเป็นบุตรหลานผู้มีตระกูล จึงถูกกรมพระราชวังหลังกริ้วจนถึงให้โบยและจำคุกคนทั้งสอง แต่เมื่อกรมพระราชวังหลังเสด็จทิวงคตในปี พ.ศ. 2349 จึงมีการอภัยโทษแก่ผู้ถูกลงโทษทั้งหมดถวายเป็นพระราชกุศล หลังจากสุนทรภู่ออกจากคุกก็เดินทางไปหาบิดาที่เมืองแกลง จังหวัดระยอง การเดินทางครั้งนี้สุนทรภู่ได้แต่ง นิราศเมืองแกลง พรรณนาสภาพการเดินทางต่างๆ เอาไว้โดยละเอียด และลงท้ายเรื่องว่า แต่งมาให้แก่แม่จัน “เป็นขันหมากมิ่งมิตรพิสมัย” ในนิราศได้บันทึกสมณศักดิ์ของบิดาของสุนทรภู่ไว้ด้วยว่า เป็น “พระครูธรรมรังษี” เจ้าอาวาสวัดป่ากร่ำ กลับจากเมืองแกลงคราวนี้ สุนทรภู่จึงได้แม่จันเป็นภรรยา สุนทรภู่กับแม่จันมีบุตรด้วยกัน 1 คน ชื่อหนูพัด ได้อยู่ในความอุปการะของเจ้าครอกทองอยู่ ส่วนหนุ่มสาวทั้งสองมีเรื่องระหองระแหงกันเสมอ จนภายหลังก็เลิกรากันไป
สุนทรภู่มีบุตรชายสามคน คือพ่อพัด เกิดจากภรรยาคนแรกคือแม่จัน พ่อตาบ เกิดจากภรรยาคนที่สองคือแม่นิ่ม และพ่อนิล เกิดจากภรรยาที่ชื่อแม่ม่วง นอกจากนี้ปรากฏชื่อบุตรบุญธรรมอีกสองคน ชื่อพ่อกลั่น และพ่อชุบ
พ่อพัดนี้เป็นลูกรัก ได้ติดสอยห้อยตามสุนทรภู่อยู่เสมอ เมื่อครั้งสุนทรภู่ออกบวช พ่อพัดก็ออกบวชด้วย เมื่อสุนทรภู่ได้มารับราชการกับเจ้าฟ้าน้อย พ่อพัดก็มาพำนักอยู่ด้วยเช่นกัน ส่วนพ่อตาบนั้นปรากฏว่าได้เป็นกวีมีชื่ออยู่พอสมควร เมื่อถึงรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงตราพระราชบัญญัตินามสกุลขึ้น ตระกูลของสุนทรภู่ได้ใช้นามสกุลต่อมาว่า ภู่เรือหงส์ เรื่องนามสกุลของสุนทรภู่นี้ ก.ศ.ร. กุหลาบ เคยเขียนไว้ในหนังสือสยามประเภท อ้างถึงผู้ถือนามสกุล ภู่เรือหงส์ ที่ได้รับบำเหน็จจากหมอสมิทเป็นค่าพิมพ์หนังสือเรื่อง พระอภัยมณี แต่หนังสือของ ก.ศ.ร. กุหลาบ ไม่เป็นที่ยอมรับของราชสำนัก ด้วยปรากฏอยู่บ่อยครั้งว่ามักเขียนเรื่องกุ เรื่องนามสกุลของสุนทรภู่จึงพลอยไม่ได้รับการเชื่อถือไปด้วย จนกระทั่ง ศจ.ผะอบ โปษะกฤษณะ ยืนยันความข้อนี้เนื่องจากเคยได้พบกับหลานปู่ของพ่อพัดมาด้วยตนเอง

วันสุนทรภู่
พระสุนทรโวหาร

ด้านการงานสุนทรภู่
สุนทรภู่ได้เข้ารับราชการในกรมพระอาลักษณ์เมื่อ พ.ศ. 2359 ในรัชสมัยรัชกาลที่ 2 มูลเหตุในการได้เข้ารับราชการนี้ ไม่ปรากฏแน่ชัด แต่สันนิษฐานว่าอาจแต่งโคลงกลอนได้เป็นที่พอพระทัย ทราบถึงพระเนตรพระกรรณจึงทรงเรียกเข้ารับราชการ แนวคิดหนึ่งว่าสุนทรภู่เป็นผู้แต่งกลอนในบัตรสนเท่ห์ ซึ่งปรากฏชุกชุมอยู่ในเวลานั้น อีกแนวคิดหนึ่งสืบเนื่องจาก “ช่วงเวลาที่หายไป” ของสุนทรภู่ ซึ่งน่าจะใช้วิชากลอนทำมาหากินเป็นที่รู้จักเลื่องชื่ออยู่ ชะรอยจะเป็นเหตุให้ถูกเรียกเข้ารับราชการก็ได้
ระหว่างรับราชการ สุนทรภู่ต้องโทษจำคุกเพราะถูกอุทธรณ์ว่าเมาสุราทำร้ายญาติผู้ใหญ่ แต่จำคุกได้ไม่นานก็โปรดพระราชทานอภัยโทษ เล่ากันว่าเนื่องจากพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยทรงติดขัดบทพระราชนิพนธ์เรื่องสังข์ทอง ไม่มีใครแต่งได้ต้องพระทัย ภายหลังพ้นโทษ สุนทรภู่ได้เป็นพระอาจารย์ถวายอักษรสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าอาภรณ์ พระราชโอรสในรัชกาลที่ 2 เชื่อว่าสุนทรภู่แต่งเรื่อง สวัสดิรักษา ในระหว่างเวลานี้

ด้านช่วงชีวิตสุนทรภู่
สุนทรภู่รับราชการอยู่เพียง 8 ปี เมื่อถึงปี พ.ศ. 2367 พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยเสด็จสวรรคต หลังจากนั้นสุนทรภู่ก็ออกบวช แต่จะได้ลาออกจากราชการก่อนออกบวชหรือไม่ยังไม่ปรากฏแน่ชัด แม้จะไม่ปรากฏโดยตรงว่าสุนทรภู่ได้รับพระบรมราชูปถัมภ์จากราชสำนักใหม่ในพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว แต่ก็ได้รับพระอุปถัมภ์จากพระบรมวงศานุวงศ์พระองค์อื่นอยู่เสมอ เช่น ปี พ.ศ. 2372 สุนทรภู่ได้เป็นพระอาจารย์ถวายอักษรเจ้าฟ้ากลางและเจ้าฟ้าปิ๋ว พระโอรสในเจ้าฟ้ากุณฑลทิพยวดี ปรากฏความอยู่ใน เพลงยาวถวายโอวาท นอกจากนั้นยังได้อยู่ในพระอุปถัมภ์ของพระองค์เจ้าลักขณานุคุณ และกรมหมื่นอัปสรสุดาเทพ ซึ่งปรากฏเนื้อความในงานเขียนของสุนทรภู่บางเรื่องว่า สุนทรภู่แต่งเรื่อง พระอภัยมณี และ สิงหไตรภพ ถวาย
สุนทรภู่บวชอยู่เป็นเวลา 18 ปี ระหว่างนั้นได้ย้ายไปอยู่วัดต่างๆ หลายแห่ง เท่าที่พบระบุในงานเขียนของท่านได้แก่ วัดเลียบ วัดแจ้ง วัดโพธิ์ วัดมหาธาตุ และวัดเทพธิดาราม งานเขียนบางชิ้นสื่อให้ทราบว่า ในบางปี ภิกษุภู่เคยต้องเร่ร่อนไม่มีที่จำพรรษาบ้างเหมือนกัน ผลจากการที่ภิกษุภู่เดินทางธุดงค์ไปที่ต่างๆ ทั่วประเทศ ปรากฏผลงานเป็นนิราศเรื่องต่างๆ มากมาย และเชื่อว่าน่าจะยังมีนิราศที่ค้นไม่พบอีกเป็นจำนวนมาก
งานเขียนชิ้นสุดท้ายที่ภิกษุภู่แต่งไว้ก่อนลาสิกขาบท คือ รำพันพิลาป โดยแต่งขณะจำพรรษาอยู่ที่วัดเทพธิดาราม พ.ศ. 2385
ปี พ.ศ. 2385 ภิกษุภู่จำพรรษาอยู่ที่วัดเทพธิดาราม คืนหนึ่งหลับฝันเห็นเทพยดาจะมารับตัวไป เมื่อตื่นขึ้นคิดว่าตนถึงฆาตจะต้องตายแล้ว จึงประพันธ์เรื่อง รำพันพิลาป พรรณนาถึงความฝันและเล่าเรื่องราวต่างๆ ที่ได้ประสบมาในชีวิต หลังจากนั้นก็ลาสิกขาบทเพื่อเตรียมตัวจะตาย ขณะนั้นสุนทรภู่มีอายุได้ 56 ปี
หลังจากลาสิกขาบท สุนทรภู่ได้รับพระอุปถัมภ์จากเจ้าฟ้าน้อย หรือสมเด็จเจ้าฟ้าจุฑามณี กรมขุนอิศเรศรังสรรค์ รับราชการสนองพระเดชพระคุณทางด้านงานวรรณคดี สุนทรภู่แต่ง เสภาพระราชพงศาวดาร บทเห่กล่อมพระบรรทม และบทละครเรื่อง อภัยนุราช ถวาย รวมถึงยังแต่งเรื่อง พระอภัยมณี ถวายให้กรมหมื่นอัปสรสุดาเทพด้วย เมื่อถึงปี พ.ศ. 2394 พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จสวรรคต เจ้าฟ้ามงกุฎเสด็จขึ้นครองราชย์เป็นพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และทรงสถาปนาเจ้าฟ้าน้อยขึ้นเป็น พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว สุนทรภู่จึงได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้ากรมอาลักษณ์ฝ่ายพระราชวังบวร มีบรรดาศักดิ์เป็น พระสุนทรโวหาร ช่วงระหว่างเวลานี้สุนทรภู่ได้แต่งนิราศเพิ่มอีก 2 เรื่อง คือ นิราศพระประธม และ นิราศเมืองเพชร
สุนทรภู่พำนักอยู่ในเขตพระราชวังเดิม ใกล้หอนั่งของพระยามนเทียรบาล (บัว) มีห้องส่วนตัวเป็นห้องพักกั้นเฟี้ยมที่เรียกชื่อกันว่า “ห้องสุนทรภู่” เชื่อว่าสุนทรภู่พำนักอยู่ที่นี่ตราบจนสิ้นชีวิต เมื่อปี พ.ศ. 2398 สิริรวมอายุได้ 69 ปี

สุดสาคร
สุดสาคร ผลงานที่มีชื่อเสียงเรื่องหนึ่งของ สุนทรภู่

ผลงานสุนทรภู่

งานประพันธ์ของสุนทรภู่เท่าที่มีการค้นพบในปัจจุบันมีปรากฏอยู่เพียงจำนวนหนึ่ง และสูญหายไปอีกเป็นจำนวนมาก ถึงกระนั้นตามจำนวนเท่าที่ค้นพบก็ถือว่ามีปริมาณค่อนข้างมาก เรียกได้ว่า สุนทรภู่เป็น “นักเลงกลอน” ที่สามารถแต่งกลอนได้รวดเร็วหาตัวจับยาก ผลงานของสุนทรภู่เท่าที่ค้นพบในปัจจุบันมีดังต่อไปนี้
กลอนสุนทรภู่
  • บางส่วนบางตอนจาก นิราศภูเขาทองถึงโรงเหล้าเตากลั่นควันโขมง มีคันโพงผูกสายไว้ปลายเสาโอ้บาปกรรมน้ำนรกเจียวอกเรา ให้มัวเมาเหมือนหนึ่งบ้าเป็นน่าอาย
  • บางส่วนบางตอนจาก ขุนช้างขุนแผน แม่รักลูก ลูกก็รู้ อยู่ว่ารัก ใครอื่นสัก หมื่นแสน ไม่แม้นเหมือน จะกินนอน วอนว่า เมตตาเตือน จะจากเรือน ร้างแม่ ก็แต่กาย
  • บางส่วนบางตอนจาก สุดสาคร แล้วสอนว่าอย่าไว้ใจมนุษย์ มันแสนสุดลึกล้ำเหลือกำหนดถึงเถาวัลย์พันเกี่ยวที่เลี้ยวลด ก็ไม่คดเหมือนหนึ่งในน้ำใจคน
นิราศ
  • นิราศเมืองแกลง (พ.ศ. 2349) – แต่งเมื่อหลังพ้นโทษจากคุก และเดินทางไปหาพ่อที่เมืองแกลง
  • นิราศพระบาท (พ.ศ. 2350) – แต่งหลังจากกลับจากเมืองแกลง และต้องตามเสด็จพระองค์เจ้าปฐมวงศ์ไปนมัสการรอยพระพุทธบาทที่จังหวัดสระบุรีในวันมาฆบูชา
  • นิราศภูเขาทอง (ประมาณ พ.ศ. 2371) – แต่งโดยสมมุติว่า เณรหนูพัด เป็นผู้แต่ง ไปนมัสการพระเจดีย์ภูเขาทองที่จังหวัดอยุธยา
  • นิราศสุพรรณ (ประมาณ พ.ศ. 2374) – แต่งเมื่อครั้งยังบวชอยู่ และไปค้นหายาอายุวัฒนะที่จังหวัดสุพรรณบุรี เป็นผลงานเรื่องเดียวของสุนทรภู่ที่แต่งเป็นโคลง
  • นิราศวัดเจ้าฟ้า (ประมาณ พ.ศ. 2375) – แต่งเมื่อครั้งยังบวชอยู่ และไปค้นหายาอายุวัฒนะตามลายแทงที่วัดเจ้าฟ้าอากาศ (ไม่ปรากฏว่าที่จริงคือวัดใด) ที่จังหวัดอยุธยา
  • นิราศอิเหนา (ไม่ปรากฏ, คาดว่าเป็นสมัยรัชกาลที่ 3) – แต่งเป็นเนื้อเรื่องอิเหนารำพันถึงนางบุษบารำพันพิลาป (พ.ศ. 2385) – แต่งเมื่อครั้งจำพรรษาอยู่ที่วัดเทพธิดาราม แล้วเกิดฝันร้ายว่าชะตาขาด จึงบันทึกความฝันพร้อมรำพันความอาภัพของตัวไว้เป็น “รำพันพิลาป” จากนั้นจึงลาสิกขาบท
  • นิราศพระประธม (พ.ศ. 2385) – เชื่อว่าแต่งเมื่อหลังจากลาสิกขาบทและเข้ารับราชการในพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว ไปนมัสการพระประธมเจดีย์ (หรือพระปฐมเจดีย์) ที่เมืองนครชัยศรี
  • นิราศเมืองเพชร (พ.ศ. 2388) – แต่งเมื่อเข้ารับราชการในพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว เชื่อว่าไปธุระราชการอย่างใดอย่างหนึ่ง นิราศเรื่องนี้มีฉบับค้นพบเนื้อหาเพิ่มเติมซึ่ง อ.ล้อม เพ็งแก้ว เชื่อว่า บรรพบุรุษฝ่ายมารดาของสุนทรภู่เป็นชาวเมืองเพชรบุรี

นิทาน
  • โคบุตร : เชื่อว่าเป็นงานประพันธ์ชิ้นแรกของสุนทรภู่ เป็นเรื่องราวของ “โคบุตร” ซึ่งเป็นโอรสของพระอาทิตย์กับนางอัปสร แต่เติบโตขึ้นมาด้วยการเลี้ยงดูของนางราชสีห์
  • พระอภัยมณี : คาดว่าเริ่มประพันธ์ในสมัยรัชกาลที่ 2 และแต่งๆ หยุดๆ เรื่อยมาจนถึงสมัยรัชกาลที่ 4 เป็นผลงานชิ้นเอกของสุนทรภู่ ได้รับยกย่องจากวรรณคดีสโมสรให้เป็นสุดยอดวรรณคดีไทยประเภทกลอนนิทาน
  • พระไชยสุริยา : เป็นนิทานที่สุนทรภู่แต่งด้วยฉันทลักษณ์ประเภทกาพย์หลายชนิด ได้แก่ กาพย์ยานี 11 กาพย์ฉบัง 16 และกาพย์สุรางคนางค์ 28 เป็นนิทานสำหรับสอนอ่าน เนื้อหาเรียงลำดับความง่ายไปยาก จากแม่ ก กา แม่กน กง กก กด กบ กม และเกย เชื่อว่าแต่งขึ้นประมาณ พ.ศ. 2383 – 2385
  • ลักษณวงศ์ : เป็นนิทานแนวจักรๆ วงศ์ๆ ที่นำโครงเรื่องมาจากนิทานพื้นบ้าน แต่มีตอนจบที่แตกต่างไปจากนิทานทั่วไปเพราะไม่ได้จบด้วยความสุข แต่จบด้วยงานสมโภชศพนางทิพเกสร ชายาของลักษณวงศ์ที่สิ้นชีวิตด้วยการสั่งประหารของลักษณวงศ์เอง
  • สิงหไกรภพ : เชื่อว่าเริ่มประพันธ์เมื่อครั้งถวายอักษรแด่เจ้าฟ้าอาภรณ์ ภายหลังจึงแต่งถวายกรมหมื่นอัปสรสุดาเทพ และน่าจะหยุดแต่งหลังจากกรมหมื่นอัปสรสุดาเทพสิ้นพระชนม์ สิงหไตรภพเป็นตัวละครเอกที่แตกต่างจากตัวพระในเรื่องอื่นๆ เนื่องจากเป็นคนรักเดียวใจเดียว
สุภาษิต
  • สวัสดิรักษา : คาดว่าประพันธ์ในสมัยรัชกาลที่ 2 ขณะเป็นพระอาจารย์ถวายอักษรแด่เจ้าฟ้าอาภรณ์
  • เพลงยาวถวายโอวาท : คาดว่าประพันธ์ในสมัยรัชกาลที่ 3 ขณะเป็นพระอาจารย์ถวายอักษรแด่เจ้าฟ้ากลางและเจ้าฟ้าปิ๋ว
  • สุภาษิตสอนหญิง : เป็นหนึ่งในผลงานซึ่งยังเป็นที่เคลือบแคลงว่า สุนทรภู่เป็นผู้ประพันธ์จริงหรือไม่
บทละคร
  • มีการประพันธ์ไว้เพียงเรื่องเดียวคือ อภัยนุราช ซึ่งเขียนขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 4 เพื่อถวายพระองค์เจ้าดวงประภา พระธิดาในพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว
บทเสภา
  • ขุนช้างขุนแผน
  • เสภาพระราชพงศาวดาร
บทเห่กล่อมพระบรรทม
น่าจะแต่งขึ้นสำหรับใช้ขับกล่อมหม่อมเจ้าในพระองค์เจ้าลักขณานุคุณ กับพระเจ้าลูกยาเธอในพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว เท่าที่พบมี 4 เรื่องคือ
  • เห่เรื่องพระอภัยมณี
  • เห่เรื่องโคบุตร
  • เห่เรื่องจับระบำ
  • เห่เรื่องกากี


ข้อมูลที่เกี่ยวข้อง

ร่วมสดุดีสุนทรภู่
ท่านสุนทรภู่เกิดหลังจากเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่สองไม่กี่ปี บริเวณที่ท่านเกิดคือแถวๆโรงพยาบาลศิริราช สถานีรถไฟบางกอกน้อยนี่เอง (ตรงนี้เคยเป็นวังหลังสมัยกรุงธนบุรี) …

สุนทรภู่
สำหรับข้าพเจ้าประทับใจหลายคน เอาเท่าที่จำได้จะไม่เรียงลำดับเวลาเหตุการณ์ ประทับใจบุคคลเหล่านี้คือ 1. พระเจ้าอโศกที่แรกเริ่มพระองค์เป็นคนโหดร้ายฆ่าพี่น้องต่างมารดาชิงราชสมบัติ เหลือน้องชายร่วมมารดาเพียงองค์เดียว …

สุนทรภู่
นอกจากเมืองไทยจะมีบรมครู ท่านสุนทรภู่ ผู้เป็นมหากวีแห่งเมืองไทยแล้ว เรายังมี ปยุต เงากระจ่าง (1 เมษายน พ.ศ. 2472 – 27 พฤษภาคมพ.ศ. 2553) เป็นบรมครูด้านการ์ตูนเคลื่อนไหวของไทย อาจารย์วิทยาลัยเพาะช่าง และผู้กำกับหนังการ์ตูนขนาดยาวเรื่องแรก…

สุนทรภู่
ขอหยิบยกบทประพันธ์สอนใจหญิงเราชาวไทยของท่านสุนทรภู่มาฝาก ที่ถึงแม้บทประพันธ์นี้จะผ่านกาลเวลาล่วงเลยมาช้านาน แต่ก็ยังคงแฝงความคิดและคำสอนเตือนใจหญิงเราในเรื่องการวางตัว …



ประวัติ พระอภัยมณี วรรณคดีเอก สุนทรภู่
พระอภัยมณี วรรณกรรมแห่งประวัติศาสตร์ ผลงานที่สะท้อนแนวความคิดของ สุนทรภู่ ออกมามากที่สุด โดยโครงเรื่องมีความเป็นสากลมากยิ่งกว่าวรรณคดีไทยเรื่องอื่นๆ ตัวละครมีความหลากหลายทางเชื้อชาติ แสดงถึงความละเอียดและการเป็นคนใฝ่รู้ของ สุนทรภู่ นักเขียนการ์ตูนวัยรุ่น สมัยนี้ …

อนุสาวรีย์สุนทรภู่ จังหวัดระยอง
อนุสาวรีย์สุนทรภู่ เป็นสถานที่ที่สร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์แด่ พระสุนทรโวหาร (ภู่) หรือ สุนทรภู่ ตั้งอยู่บนเส้นทาง แกลง-แหลมแม่พิมพ์ ที่ ต.บ้านกร่ำ อ.แกลง จ.ระยอง …

สถานที่จัดงาน วันสุนทรภู่ ประจำปี 2557
สถานที่จัดงาน วันสุนทรภู่ ประจำปี 2558
ขอเชิญเที่ยวงานชมงานวันสุนทรภู่ จังหวัดระยองได้กำหนดจัดงานวันสุนทรภู่ ประจำปี 2558 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อรำลึก เชิดชูเกียรติ และเผยแพร่เกียรติคุณของท่านสุนทรภู่กวีเอกของโลก ซึ่งองค์การศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (UNESCO)…
พิพิธภัณฑ์สุนทรภู่
กุฏิ สุนทรภู่ หรือ พิพิธภัณฑ์สุนทรภู่ ตั้งอยู่ที่ วัดเทพธิดาราม ถ.มหาไชย กรุงเทพฯ เป็นอาคารซึ่งปรับปรุงจากกุฏิที่ สุนทรภู่ เคยอาศัยอยู่เมื่อครั้งจำพรรษาอยู่ที่นี่ ปัจจุบันเป็นสถานที่ตั้งของสมาคมนักกลอนแห่งประเทศไทย …

                                        วันต่อต้านยาเสพติดโลก

วันต่อต้านยาเสพติดตรงกับวันที่ 26 มิถุนายน ตามมติสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ เพื่อนๆ อาจจะยังไม่ทราบถึงความเป็นมาวันต่อต้านยาเสพติดโลก วันนี้ scoop.mthai มีเกร็ดน่ารู้เกี่ยวกับความเป็นมาวันต่อต้านยาเสพติดมาฝากด้วย ไปดูกันเลย..

สัญลักษณ์วันต่อต้านยาเสพติด
สัญลักษณ์วันต่อต้านยาเสพติด

ยาเสพติด ถือเป็นสิ่งที่ทำร้ายต่อเยาวชนและ ความเจริญก้าวหน้าของประเทศชาติเป็นอย่างมาก ทางประเทศต่างๆ จึงมีความพยายามร่วมกันหาทางแก้ไขหยุดยั้ง ป้องกันปัญหายาเสพติด โดยในการประชุมระหว่างประเทศว่าด้วยการใช้ยาในทางที่ผิด รวมไปถึงการลักลอบใช้ยาเสพติด ซึ่งมีการจัดตั้งขึ้นที่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย เมื่อวันที่ 17-26 มิถุนายน พ.ศ. 2560 ซึ่งในการประชุมได้มีมติเสนอให้วันที่ 26 มิถุนายน ของทุกปี เป็น “วันต่อต้านยาเสพติดโลก” นับตั้งแต่นั้นมา
วันต่อต้านยาเสพติดวันต่อต้านยาเสพติด
วันต่อต้านยาเสพติดในประเทศไทย
สำหรับประเทศไทยในบ้านเรานั้น ได้พบเจอเผชิญกับปัญหา “ยาเสพติด” อยู่มาเป็นเวลานาน ซึ่งรัฐบาลในทุกยุคทุกสมัย ก็ได้เร่งเห็นและ พยายามแก้ไขปัญหายาเสพติดมาตลอด จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2501 คณะปฏิบัติภายใต้ของ จอมพล สฤษดิ์  ธนะรัชต์ ได้ออกมาประกาศฉบับที่ 37 ลงวันที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2501 ให้มีการยกเลิกสูบฝิ่นทั่วราชอาณาจักร โดยให้มีการเผาทำลายฝิ่น และอุปกรณ์สูบฝิ่นที่ท้องสนามหลวง ในคืนวันที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2502 หลังจากนั้น เมื่อปี พ.ศ. 2504 รัฐบาลจึงได้จัดตั้ง “คณะกรรมการปราบปรามยาเสพติดให้โทษ” โดยใช้ชื่อย่อว่า “กปส.”
ต่อมาในวันที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2519 ได้มีการแก้ไขปัญหายาเสพติดของประเทศไทยให้ดีขึ้น โดยมีการวางระบบและ แบบแผน โดยกำหนดพระราชบัญญัติให้มี “คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด” ใช้ชื่อย่อ “ป.ป.ส.” ซึ่งเป็นหน่วยงานที่มีหน้าที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันและ ปราบปรามยาเสพติดทั้งในประเทศและต่างประเทศ
วันต่อต้านยาเสพติด
ร่วมพลังเอาชนะ ต่อต้านยาเสพติด
ทั้งนี้ในประเทศไทยได้มีการออกกฏหมายถึงโทษที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด ดังนี้
ผลิต นำเข้า หรือส่งออก ต้องระวางโทษจำคุกตลอดชีวิต หากเป็นการกระทำเพื่อจำหน่าย ต้องระวางโทษประหารชีวิต ( กรณีคำนวณเป็น สารบริสุทธิ์ได้ตั้งแต่ 20 กรัม ขึ้นไป ถือว่าเป็นการกระทำเพื่อ จำหน่าย)
ครอบครอง ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 5 ปี ถึงจำคุกตลอดชีวิตและปรับตั้งแต่ 5 หมื่นบาทถึง 5 แสนบาท หากมีสารบริสุทธิ์ ไม่เกิน 100 กรัม แต่ถ้าเกิน 100 กรัม ต้องระวางโทษจำคุก ตลอดชีวิตหรือประหารชีวิต
เสพ คำนวณ เป็นสารบริสุทธิ์ไม่ถึง 20 กรัม ต้องระวางโทษจำคุก 1 ถึง 10 ปี และปรับ 1 หมื่นบาท ถึง 1 แสนบาท (คำนวณเป็นสารบริสุทธิ์ 20 กรัมขึ้นไป ถือว่าครอบครองเพื่อจำหน่าย)
ใช้อุบาย หลอกลวง ขู่เข็ญใช้กำลังประทุษร้ายฯให้ผู้อื่นเสพ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 6 เดือนถึง 10 ปี และปรับตั้งแต่ 5 พันบาท ถึง 1 แสนบาท ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 2 ปี ถึง 20 ปี และปรับตั้งแต่ 2 หมื่นบาท ถึง 2 แสนบาท และถ้าเป็นการกระทำต่อหญิงหรือบุคคลซึ่ง ยังไม่บรรลุนิติภาวะต้องระวางโทษประหารชีวิต ถ้ากระทำโดยมีอาวุธหรือร่วมกัน 2 คนขึ้นไป ต้องระวางโทษจำคุก 4 ปี ถึง 30 ปี และปรับตั้งแต่ 4 หมื่นบาท ถึง 3 แสนบาท
ยุยงส่งเสริมให้ผู้อื่นเสพ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1 ปี ถึง 5 ปี และปรับตั้งแต่ 1 หมื่นบาท ถึง 5 หมื่นบาท
ในทุกๆ ปีจะมีการกำหนดคำขวัญ วันต่อต้านยาเสพติด ขึ้นมา เพื่อเตือนสติ และร่วมรณรงค์กันต่อต้านยาเสพติด นับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2548 ดังนี้
  • คำขวัญ วันต่อต้านยาเสพติด 2548 : ”พลังไทย ต้านภัยยาเสพติด”
  • คำขวัญ วันต่อต้านยาเสพติด 2549 : 60 ปี ทรงครองราชย์ รวมพลังไทยทั้งชาติ ขจัดยาเสพติด
  • คำขวัญ วันต่อต้านยาเสพติด 2550 : ”รวมพลังไทย ขจัดภัยยาเสพติด ร่วมเทิดไท้องค์ราชัน”
  • คำขวัญ วันต่อต้านยาเสพติด 2551 : ”รวมพลังประชาไทย พ้นภัยยาเสพติด”
  • คำขวัญ วันต่อต้านยาเสพติด 2552 : ”ทำความดี ตามคำพ่อ” ภายใต้คำขวัญ “รวมพลังประชาไทย พ้นภัยยาเสพติด”
  • คำขวัญ วันต่อต้านยาเสพติด 2553 : ”ไทยเข้มแข็ง ชนะยาเสพติด”
  • คำขวัญ วันต่อต้านยาเสพติด 2554 : “สานต่อพระราชปณิธาน หยุดยั้งยาเสพติด หยุดหายนะแผ่นดิน”
  • คำขวัญ วันต่อต้านยาเสพติด 2555 : ”ยาเสพติดครอบงำชีวิตของคุณอยู่หรือเปล่า ชีวิตของคุณ สังคมของคุณ ต้องไม่มีที่สำหรับยาเสพติด”
  • คำขวัญ วันต่อต้านยาเสพติด 2556 : “คนไทยหัวใจสีขาว ร่วมต้านยาเสพติด” ภายใต้คำขวัญ “ยาเสพติดจะพินาศ คนไทยทั้งชาติต้องร่วมมือกัน”
  • คำขวัญ วันต่อต้านยาเสพติด 2557 : “สังคมปลอดภัย ชุมชนอุ่นใจ ได้ลูกหลานกลับคืน”
  • คำขวัญ วันต่อต้านยาเสพติด 2558 : “คิดดี ทำดี ต่อต้านยาเสพติด”
  • คำขวัญ วันต่อต้านยาเสพติด 2559 : “ประชารัฐร่วมใจ ปลอดภัยยาเสพติด“
วันต่อต้านยาเสพติด พ.ศ. 2559
วันต่อต้านยาเสพติด พ.ศ. 2559
วันต่อต้านยาเสพติด
วันต่อต้านยาเสพติด
ทั้งนี้วันต่อต้านยาเสพติดในทุกๆ ปี จะมีศิลปิน นักร้อง นักแสดง พิธีกร นักกีฬา ที่สำนักงาน ป.ป.ส. คัดเลือกมาเป็นตัวแทนในวันต่อต้านยาเสพติดปีล่าสุด พ.ศ. 2559  ได้แก่
  • เด็กหญิงณัชชาวีณ์ โกศลพิศิษฐ์ (น้องณัชชา) นักแสดงสังกัดอิสระ
  • นายชนาธิป สรงกระสินธ์ (เจ) นักกีฬาทีมชาติไทย
  • นายณัฐวุฒิ สกิดใจ (ป๋อ) ศิลปินจากสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3
  • นางสาวฝนทิพย์ วัชรตระกูล (ปุ๊กลุก) ศิลปินจากสถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7
  • นายนภัทร อินทร์ใจเอื้อ (กัน) ศิลปินสังกัดค่าย จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่
  • นางสาวพรพิมล เฟื่องฟุ้ง (เปา วลี) ศิลปินสังกัดค่ายแกรมมี่ โกลด์ ในบริษัทจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่
โดยได้นำ “ต้นแบบเยาวชนร่วมรณรงค์ประชาสัมพันธ์ต่อต้านยาเสพติด ประจำปี 2559” ทั้ง 6 คน มาร่วม เชิญชวนเยาวชนและประชาชนให้รณรงค์ต่อต้านยาเสพติดและรู้จักโทษและพิษภัยจากยาเสพติด ในรูปแบบของโฆษณาสั้นทางโทรทัศน์และวิทยุ/ การให้สัมภาษณ์/ จัดทำสื่อสิ่งพิมพ์ เช่น ชุดนิทรรศการ, ป้ายไวนิล, Standee หุ่นจำลองศิลปิน/ จัดทำต้นแบบป้ายประชาสัมพันธ์วันต่อต้านยาเสพติด/ Ad โฆษณาทางหนังสือพิมพ์ นิตยสาร วารสาร และเว็บไซต์ต่างๆ
จะเห็นได้ว่า ยาเสพติดนั้นเป็นสิ่งที่ไม่ดีทั้งต่อตัวเรา ประเทศชาติ และคนรอบข้าง สกู๊ปเอ็มไทย จึงขอเชิญชวนให้ทุกคนร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการต่อต้านยาเสพติด เพื่ออนาคตที่ดีทั้งตัวเรา และเพื่อประเทศชาติ มาร่วมกันต่อต้านยาเสพติด้วยกันนะ

อ้างอิง....

http://scoop.mthai.com/specialdays/1151.h
tml


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น