วันศุกร์ที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

24 กุมภาพันธ์ วันศิลปินแห่งชาติ


  วันศิลปินแห่งชาติ ตรงกับวันที่ 24 กุมภาพันธ์ของทุกปี เหตุใดจึงถูกกำหนดขึ้นในวันนี้ อ่านประวัติความเป็นมาวันศิลปินแห่งชาติกันเลย

          ศิลปะชั้นเลิศ มักถูกถ่ายทอดจากความรู้สึกนึกคิด และความสามารถของผู้ที่เป็น "ศิลปินชั้นเอก" ซึ่งในปัจจุบันมีศิลปินสาขาต่าง ๆ มากมาย ที่สร้างผลงานน่าประทับใจ และเป็นประโยชน์ต่อสังคม ด้วยเหตุนี้ ประเทศไทยจึงกำหนดให้มี วันศิลปินแห่งชาติ และจัดให้มีการประกาศยกย่องเชิดชูเกียรติ "ศิลปินแห่งชาติ" เป็นประจำทุกปี
         ประวัติความเป็นมา วันศิลปินแห่งชาติ

          วันศิลปินแห่งชาติ ตรงกับวันที่ 24 กุมภาพันธ์ของทุกปี เนื่องจากตรงกับวันคล้ายวันพระราชสมภพของพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่ 2 แห่งราชวงศ์จักรี ผู้ทรงเป็นพระปฐมบรมศิลปินแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ด้วยทรงพระปรีชาสามารถในศิลปกรรมด้านต่าง ๆ หลายสาขา ไม่ว่าจะเป็นด้านกวีนิพนธ์ ด้านประติมากรรม และด้านดนตรี ดังนั้น เพื่อเป็นการน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณอันยิ่งใหญ่ คณะรัฐมนตรีจึงได้มีมติเมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2528 ประกาศให้ วันที่ 24 กุมภาพันธ์ของทุกปีเป็นวันศิลปินแห่งชาติ
          ทั้งนี้ สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ ได้จัดทำโครงการศิลปินแห่งชาติ มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2527 เพื่อสรรหา ส่งเสริม สนับสนุน และช่วยเหลือศิลปินผู้สร้างสรรค์ ผลงาน ศิลปะล้ำค่า อันทรงคุณค่าของแผ่นดิน ยกย่องเชิดชูเกียรติเป็นศิลปินแห่งชาติ โดยมีสำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติเป็นผู้พิจารณา 
         ความสำคัญของศิลปินแห่งชาติ

          ศิลปินแห่งชาติ นับเป็นทรัพยากรบุคคลสำคัญทางด้านศิลปะ ที่ได้สืบสานงานศิลปะของชาติให้เชื่อมโยงจากอดีตมาสู่ปัจจุบัน เป็นการถ่ายทอดภูมิปัญญาของบรรพบุรุษในอดีต ให้มีความรุ่งโรจน์สืบไปยังอนาคตข้างหน้า ซึ่งนับตั้งแต่เริ่มโครงการ ศิลปินแห่งชาติ มาเมื่อปี พ.ศ. 2527  และประกาศผลการคัดเลือกศิลปินแห่งชาติในปีแรกเมื่อ พ.ศ. 2528 จนถึงปัจจุบัน มีศิลปินสาขาต่าง ๆ มาแล้วหลายคน 

          สำหรับผู้ที่ได้รับยกย่องเป็นศิลปินแห่งชาติ จะได้รับเงินตอบแทน เดือนละ 20,000 บาท  และสามารถเบิกเงินสวัสดิการเพื่อการรักษาพยาบาลได้ตามระเบียบราชการ ไม่เกิน 100,000 บาทต่อปี รวมทั้งมีค่าช่วยเหลือเมื่อประสบสาธารณภัย และหากเสียชีวิต จะมีค่าช่วยเหลืองานศพ 20,000 บาท ค่าจัดทำหนังสือที่ระลึกไม่เกิน 150,000 บาท
         คุณสมบัติของศิลปินแห่งชาติ มีดังนี้

          1. เป็นผู้มีสัญชาติไทยและยังมีชีวิตอยู่ในวันตัดสิน

          2. เป็นผู้ที่มีความสามารถ มีความเชี่ยวชาญ และมีผลงานดีเด่น เป็นที่ยอมรับของวงการศิลปินแขนงนั้น

          3. เป็นผู้สร้างสรรค์และพัฒนาศิลปะแขนงนั้นจนถึงปัจจุบัน

          4. เป็นผู้ผดุงและถ่ายทอดศิลปะแขนงนั้น

          5. เป็นผู้ปฏิบัติงานศิลปะแขนงนั้นอยู่ในปัจจุบัน

          6. เป็นผู้มีคุณธรรมและมีความรักในวิชาชีพของตน

          7. เป็นผู้มีผลงานที่ยังประโยชน์ต่อสังคมและมนุษยชาติ

         การจำแนกสาขาศิลปะของศิลปินแห่งชาติ

          1. สาขาทัศนศิลป์ (Visual Art) หมายถึง ศิลปะที่มองเห็นได้ด้วยตา จะเป็นศิลปะสองมิติหรือสามมิติ ซึ่งได้แก่ ผลงานศิลปกรรมประเภทต่าง ๆ ที่แสดงถึงภูมิปัญญาของผู้สร้างสรรค์และมีเอกลักษณ์ที่โดดเด่น ดังต่อไปนี้

                - จิตรกรรม หมายถึง ภาพเขียนสีและภาพลายเส้น

                - ประติมากรรม หมายถึง งานปั้นและแกะสลัก

                - ภาพพิมพ์ หมายถึง ศิลปะการพิมพ์ด้วยกรรมวิธีต่าง ๆ เช่น การพิมพ์ด้วยแม่พิมพ์ไม้ โลหะ ฯลฯ

                - ภาพถ่าย หมายถึง ผลงานศิลปะภาพถ่ายที่เสนอด้วยสื่อและกรรมวิธีต่าง ๆ

                - สื่อประสม หมายถึง ผลงานศิลปะที่สร้างสรรค์ขึ้นด้วยกรรมวิธีและเทคนิคต่าง ๆ อย่างอิสระ

          2. สาขาศิลปะสถาปัตยกรรม (Architecture) หมายถึง งานออกแบบ หรืองานออกแบบและงานก่อสร้างอาคารสวยงาม มีคุณค่าทางศิลปะ และมีวิทยาการ ซึ่งแสดงภูมิปัญญาของผู้ออกแบบอย่างโดดเด่น ได้แก่ สถาปัตยกรรมไทยและสถาปัตยกรรมร่วมสมัย

          3. สาขาวรรณศิลป์ (Literature) หมายถึง บทประพันธ์ที่ปลุกมโนคติของผู้อ่าน ทำให้เกิดจินตนาการความเพลิดเพลิน และเกิดอารมณ์ต่าง ๆ ตามเจตนารมณ์ของผู้ประพันธ์ ได้แก่ กวีนิพนธ์ เรื่องสั้น นวนิยาย บันเทิงคดี สำหรับเด็กและเยาวชน อาทิ หนังสือเด็ก วรรณกรรมเยาวชนที่ได้รับการตีพิมพ์เผยแพร่อย่างกว้างขวาง

          4. สาขาศิลปะการแสดง (Performing Art) หมายถึง ศิลปะที่เกี่ยวข้องกับการแสดง ซึ่งเป็นได้ทั้งแบบดั้งเดิมหรือพัฒนาขึ้นใหม่ ได้แก่

                4.1 การละคร ประกอบด้วย ละครรำ เช่น โนห์รา ชาตรี ฯลฯ ละครร้อง โขน ลิเก ระบำ (ประดิษฐ์ขึ้นมาใหม่) รำ (ประดิษฐ์ขึ้นมาใหม่) ฟ้อน (ประดิษฐ์ขึ้นมาใหม่) เซิ้ง (ประดิษฐ์ขึ้นมาใหม่) หุ่น เช่น หุ่นละครเล็ก หุ่นกระบอก หนังใหญ่ หนังตะลุง การเขียนบทร้องหรือบทละครรำ (เพื่อการแสดง)

                4.2 การดนตรี แบ่งออกเป็นดนตรีไทย และดนตรีสากล

                     - นักดนตรี ต้องเป็นนักดนตรีเด่นเฉพาะเครื่องมือ

                     - นักร้อง ต้องมีความสามารถทั้งร้องส่งและร้องรับในการแสดงต่าง ๆ และสามารถแหล่ทำนองต่าง ๆ ได้ (แหล่เฉพาะแบบดั้งเดิม)

                     - นักประพันธ์เพลง ต้องประพันธ์ ทั้งทางร้องและทางดนตรี

                     - ผู้อำนวยเพลง ต้องเป็นผู้อำนวยเพลงดีเด่น

                     - ผู้ผลิตเครื่องดนตรี

                4.3 การแสดงพื้นบ้าน ประกอบด้วย หมอลำ ซอ ลำตัด เพลงฉ่อย เพลงอีแซว เพลงบอก สวดคฤหัสถ์ ฯลฯ


อ้างอิง.............https://hilight.kapook.com/view/56456

วันเสาร์ที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

วันมะเร็งโลก

          วันมะเร็งโลก ตรงกับวันที่ 4 กุมภาพันธ์ของทุกปี เหตุใดจึงกำหนดให้มีวันมะเร็งโลก อ่านเรื่องราวความเป็นมากันเลย

          ปัจจุบันนี้ ประชาคมโลกได้ให้ความสำคัญกับโรคมะเร็งมากขึ้นและถือเป็นเรื่องใกล้ตัวที่ควรทำความรู้จัก เนื่องจากในแต่ละปีมะเร็งได้คร่าชีวิตผู้คนทั่วโลกในอัตราที่สูงมากขึ้น ดังนั้น เพื่อให้คนทั่วโลกตระหนักถึงภัยร้ายจากโรคมะเร็ง รวมถึงรณรงค์ให้คนหันมาใส่ใจสุขภาพของตนเอง จึงได้มีการกำหนด วันมะเร็งโลก ในวันที่ 4 กุมภาพันธ์
          โดยในวันที่ 4 กุมภาพันธ์ของทุกปี เป็นวันที่องค์การอนามัยโลกและสมาคมต่อต้านมะเร็งสากลกำหนดให้เป็นวันมะเร็งโลก (World Cancer Day) เพื่อบรรเทาปัญหาการเจ็บป่วยและเสียชีวิตจากโรคมะเร็ง หลังจากพบว่ามะเร็งคือแชมป์อันดับ 1 ที่คร่าชีวิตคนทั่วโลกไปถึงปีละ 8,200,000 คน ซึ่งในจำนวนนี้มีคนอายุระหว่าง 30-69 ปี ถึง 4 ล้านคนที่เสียชีวิตก่อนวัยอันควร สะท้อนถึงแนวโน้มการเกิดโรคมากขึ้นในกลุ่มคนวัยทำงาน อันสืบเนื่องมาจากวิถีการดำเนินชีวิตยุคใหม่ที่เปลี่ยนแปลงไปจากอดีต

          สำหรับในประเทศไทย โรคมะเร็งเป็นสาเหตุการตายอันดับ 1 ติดต่อกันหลายสิบปี โดยจากข้อมูลล่าสุดพบคนไทยเสียชีวิตจากโรคนี้ถึงปีละกว่า 67,000 คน หรือเฉลี่ยชั่วโมงละ 8 คน และพบผู้ป่วยรายใหม่เฉลี่ยราว 120,000 คนต่อปี
 
มะเร็ง
          ทั้งนี้ โรคมะเร็งที่พบมากที่สุดในเพศชายคือ มะเร็งตับและท่อน้ำดี มะเร็งปอด มะเร็งลำไส้ใหญ่ มะเร็งต่อมลูกหมาก และมะเร็งต่อมน้ำเหลือง 

          ส่วนมะเร็งยอดฮิตในกลุ่มหญิงไทย ได้แก่ มะเร็งเต้านม มะเร็งปากมดลูก มะเร็งตับและท่อน้ำดี มะเร็งปอด และมะเร็งลำไส้ใหญ่

          อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันพบผู้ป่วยโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ทั้งเพศชายและหญิงเพิ่มมากขึ้น จากพฤติกรรมการบริโภคของคนไทยที่เปลี่ยนไปตามกระแสทางตะวันตก กินไขมันสูง ไม่กินผักและผลไม้ และขาดการออกกำลังกาย

โรคมะเร็ง

ปัจจัยหลัก ๆ ที่ทำให้เกิดโรคมะเร็ง 

          1. พฤติกรรมการกินเนื้อสัตว์ประเภทปิ้งย่าง อาหารทอด อาหารไขมันสูง หรือรับประทานอาหารซ้ำ ๆ 
          2. การสูบบุหรี่ 
          3. การดื่มสุรา 
          4. ความเครียด
          5. การได้รับรังสี 
          6. ติดเชื้อไวรัส แบคทีเรีย พยาธิ 
          7. ความผิดปกติทางพันธุกรรม 
          8. ความบกพร่องของระบบภูมิคุ้มกัน 

โรคมะเร็ง
กลุ่มเสี่ยงที่มีโอกาสป่วยโรคมะเร็ง

          1. คนอ้วน 
          2. ผู้ที่สูบบุหรี่
          3. คนที่ดื่มสุราเป็นประจำ 
          4. คนที่ไม่ออกกำลังกาย 
          5. คนที่ไม่ทานผัก-ผลไม้สด

รู้จักมะเร็งชนิดต่าง ๆ !

          - มะเร็งปอด
          - มะเร็งเต้านม
          - มะเร็งปากมดลูก
          - มะเร็งตับ
          - มะเร็งตับอ่อน
          - มะเร็งเม็ดเลือดขาว หรือลูคีเมีย
          - มะเร็งไฝ
          - มะเร็งไทรอยด์ 
          - มะเร็งลำไส้ใหญ่
          - มะเร็งผิวหนัง 
          - มะเร็งกระเพาะอาหาร
          - มะเร็งต่อมลูกหมาก 
          - มะเร็งรังไข่ 
          - มะเร็งท่อน้ำดี

วิธีป้องกันและรักษาโรคมะเร็ง

          - 13 สมุนไพรต้านมะเร็ง นี่ล่ะความเจ๋งของสมุนไพรไทย 
          - 15 ผลไม้ต้านมะเร็ง โรคร้ายที่ผลไม้เอาอยู่
          - วิธีรักษาโรคมะเร็ง...ถ้ารู้ให้ชัด ก็ลดความกังวลได้เยอะ  
          - อาการโรคมะเร็ง 10 สัญญาณอันตรายแบบนี้ ละเลยได้ไง
          - อาหารต้านมะเร็ง 5 ชนิด ทานป้องกันโรคร้าย จัดเลย !
          - ดอกไม้ต้านมะเร็ง ความลงตัวของธรรมชาติ กับสุขภาพดีแบบเน้น ๆ

          หากคุณเป็นคนหนึ่งที่มีพฤติกรรมเสี่ยงหลายข้อ ขอให้ปรับเปลี่ยนซะตั้งแต่วันนี้ เพื่อห่างไกลโรคมะเร็ง โรคร้ายที่คร่าชีวิตคนมากมายทั่วโลก


อ้างอิง.https://health.kapook.com/view55942.html